Last updated: 31 ส.ค. 2568 | 4 จำนวนผู้เข้าชม |
เคยมั้ยเวลาจะสมัครงาน เราซิตดาวน์เปิดไฟล์เรซูเม่แล้วดันมาคิดขึ้นว่า…
“ต้องแนบ Portfolio ไปด้วยไหมนะ?”
ไม่แนบก็กลัวตกงาน ไม่อยากพลาดโอกาส แต่แนบไปก็กลัว HR จะไม่เปิดดู หรือดูแล้วไม่อิน
จริงๆ แล้ว คำตอบไม่ได้มีสูตรตายตัว แต่มี “หลักคิด” ง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า ควรแนบหรือไม่ควรแนบ และถ้าแนบ ควรทำยังไงให้ HR เปิดอ่านจริง
Portfolio = Proof
สิ่งหนึ่งที่ HR ทุกคนอยากเห็นไม่ใช่แค่ “คุณเคยทำอะไร” แต่คือ “คุณทำได้จริงหรือเปล่า” เรซูเม่เล่าประสบการณ์ได้ แต่ Portfolio คือหลักฐานจับต้องได้ ว่าคุณเคยสร้างอะไร ผลงานออกมาเป็นแบบไหน หรือคุณมีวิธีคิดยังไง
ดังนั้นถ้าคุณอยู่สายงานที่วัดจากผลงานได้ชัดเจน เช่น กราฟิกดีไซน์, คอนเทนต์, การตลาด, โฆษณา, UX/UI, วิศวกรรมซอฟต์แวร์, ภาพถ่าย, วิดีโอ หรือแม้กระทั่งงานขายที่มีตัวเลขยอดขายชัดๆ การมี Portfolio จะช่วยเพิ่มน้ำหนักทันที
แล้วงานที่ไม่ใช่สายครีเอทีฟล่ะ?
หลายคนคิดว่า Portfolio เป็นของคนสายอาร์ตเท่านั้น แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย สมมติคุณทำงาน HR คุณอาจแนบไฟล์ที่โชว์ว่าเคยทำโปรเจกต์อบรมคน หรือรีพอร์ตการวิเคราะห์คนที่คุณออกแบบเอง
หรือถ้าคุณทำงาน Finance คุณอาจโชว์การทำ Dashboard วิเคราะห์ตัวเลขที่คุณออกแบบขึ้นมาเอง
แม้แต่เด็กจบใหม่ก็ทำ Portfolio ได้ เช่น ใส่โปรเจกต์ที่ทำในมหาลัย กิจกรรมที่เคยจัด หรือการฝึกงานที่เคยทำ
เพราะท้ายที่สุด HR ไม่ได้อยากเห็นแค่คุณ “เขียนเก่ง” แต่เขาอยากเห็น “หลักฐาน” ที่ทำให้มั่นใจว่าคุณทำได้จริง
แนบยังไงไม่ให้ HR ปิดไฟล์ทิ้ง
อย่าแนบทั้งชีวิต – เลือกเฉพาะงานที่ “ตรงกับตำแหน่ง” ที่สมัคร
อย่าให้ไฟล์ใหญ่เกิน – ใช้ลิงก์แทน เช่น Google Drive, Behance หรือเว็บไซต์ส่วนตัว
จัดให้ดูง่าย – แค่เปิดมาก็รู้เลยว่าโปรเจกต์นี้คืออะไร, คุณทำส่วนไหน, ได้ผลลัพธ์อะไร
สรุปง่ายๆ
ถ้างานคุณมีผลงานที่โชว์ได้ → แนบไปเลยค่ะ เพิ่มโอกาสมากกว่าแน่นอน
ถ้าเป็นสายงานที่ดูเป็นเอกสารหรือกระบวนการ → ก็ยังทำ Portfolio ได้ เพียงแต่ปรับให้นำเสนอในรูปแบบที่เป็น “Proof” ว่าคุณทำงานนั้นจริง
แต่ถ้าคุณยังไม่มีงานโชว์ → ไม่เป็นไร เริ่มสร้างได้จากโปรเจกต์เล็กๆ ของตัวเอง
✨ เพราะเรซูเม่คือ “การเล่าเรื่อง” แต่ Portfolio คือ “การพิสูจน์” ว่าคุณคือคนที่ทำงานนั้นได้จริง